วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ท่าจับมือที่น่าสนใจที่สุดคือการจับมือแบบ 2 มือ

ท่าจับมือที่น่าสนใจที่สุดคือการจับมือแบบ 2 มือ เนื่องจากเป็นท่าที่สามารถแสดงความจริงใจต่ออีกฝ่ายที่ชัดเจนที่สุด ซึ่งมีส่วนประกอบที่สำคัญด้วยกันสองส่วน คือส่วนแรก มือซ้ายจะถูกใช้เพื่อสื่อความรู้สึกพิเศษที่จะส่งไปยังฝ่ายตรงข้าม และส่วนที่สอง มือซ้ายจะเริ่มล่วงล้ำเข้าไปในระยะใกล้ชิดของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมากแล้วท่านี้จะพบในหมู่เพื่อนฝูง คนที่มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ

คว่ำมือลงหรือกำหมัด การคว่ำมือหรือนั่งแล้วกำหมัด เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าเขากำลังจะเกิดพายุใหญ่แล้ว ดังนั้นควรถอยออกมาให้ห่าง
เขาไว้ก่อน เพราะในตอนนี้เขากำลังโกรธจัด จวนเจียนจะระเบิดมันออกมาแล้ว แต่่ยังคงอดกลั้น แต่ถ้ายังดื้อดึงต่อไปไม่ยอมถอยออกมา ความอดกลั้นของเขาอาจจะสิ้นสุดได้และทำให้สถานะการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก

งอนิ้วหัวแม่มือหรือใช้ปลายนิ้วสัมผัสกัน การใช้นิ้วเป็นของเล่นแสดงการเบื่อหน่ายอย่างสุดจะทน ถ้าพบท่าทางดังกล่าวเกิดขึ้นกับใครแล้ว ขอให้รุ้ไว้ว่าเขาทนฟังคำพูดจนเต็มกลืนแล้ว ดังนั้นควรจะรีบ ๆ พูดในสิ่งที่คิดเอาให้จบภายในเวลาอันรวดเร็วที่สุด

การซ่อนมือให้พ้นสายตา บ่อยครั้งที่เราจะพบเห็นคนที่พยายามเอามือซุกซ่อนตามที่ต่าง ๆ เช่นในกระเป๋ากางเกงหรือทำอย่างอื่นเพื่อให้มันพ้นไปไปจากสายตาของคนอื่นแต่สิ่งที่เขาเก็บซ่อนนอกจากมือแล้ว ความรู้สึก อารมณ์ที่ไม่อยากได้ยินเรื่องราวจากคู่สนทนาอีกต่อไปคือ สิ่งที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ เพราะเรื่องราวดังกล่าวอาจสร้างความลำบากใจให้เขาได้ หรือรู้สึกไม่ดีถ้าต้องได้ยินเรื่องนั้น

เอามือประสานแน่นและแนบไว้ข้างลำตัว ลักษณะดังกล่าวหมายถึง โอกาส เขากำลังเล็งเห็นช่องทางที่คิดว่าคำพูดของเขากำลังจะเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งอาจจะหมายถึง ความสำเร็จ ส่วนการประสานมือไว้หลังศีรษะ จะหมายถึงความรู้สึกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขารับรู้ ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าเหตุผลนั้นฟังไม่ขึ้น ให้รีบจัดการแก้ไขข้อมูลใหม่ทันที เพราะเขากำลังไม่แน่ใจในเหตุผลนั้น และการประสานมือไว้ที่หลังต้นคอ แสดงถึงความผ่อนคลาย และการเปิดใจรับ ด้วยลักษณะดังกล่าวนี้หมายถึงการเริ่มผ่อนคลายลงและพร้อมที่จะเปิดรับอย่างเต็มที่ หรืออาจจะหมายถึงความต้องการที่ได้สนทนาในทางที่สร้างสรรค์กว่าเดิม

ท่ากัดนิ้ว คนที่ตกอยู่ภายใต้ความกดดัน มักใช้ท่ากัดนิ้วเพื่อระบายความกดดันออกมาและมักจะทำไปโดยไม่รู้ตัว นอกจากกัดนิ้วแล้ว อาจจะหาของอื่นมากัดแทน เช่น ปากกา บุหรี่ หลอด เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการความมั่นคงทางจิตใจ

จับคางเท้าคาง ใช้ในสถานะการณ์ที่มีความเบื่อหน่ายเริ่มแผ่ออกมา เช่น ในห้องเรียน ห้องประชุม สัมมนาอบรม ผู้ฟังที่เริ่มเบื่อหน่ายจะแสดงอาการออกมาด้วยการเท้าคางเพื่อพยุงไม่ให้ศีรษะเอียงไปมา ซึ่งถ้าศีรษะไม่ตั้งตรง อาจจะทำให้เขาเผลอหลับไปได้ เราจะสังเตได้ว่าคนคนนั้นเบื่อมากน้อยแค่ไหน ได้จากความกว้างของแขนข้างที่เท้าคาง หรือพยุงศีรษะอยู่ แต่ถ้าผู้ฟังเคาะนิ้วบนโต๊ะ หรือเคาะเท้าบนพื้นไปเรื่อยๆ แสดงว่าผู้ฟังเริ่มหมดความอดทนที่ต้องทนฟังอย่างเบื่อหน่ายมานานแล้ว และผู้พูดควรจะหยุดพูดได้แล้ว

ท่าเท้าคางแล้วกางนิ้วชี้ขึ้นด้านบน เมื่อผู้ฟังเอามือเท้าคางโดยใช้นิ้วชี้ชูขึ้น แล้วใชนิ้วหัวแม่มือประคองไว้ใต้คาง แสดงว่าผู้ฟังมีความคิดในแง่ลบและกำลังวิจารณ์ตัวผู้พูดอยู่ โดยปกติแล้วการใช้นิ้วหัวแม่มีอประคองหรือพยุงใต้คาง แสดงถึงความสนใจ แต่การใช้นิ้วชี้ขึ้นด้านบนแสดงถึงการวิพากษ์วิจารณ์

ท่ากำมือแนบข้างแก้มและนิ้วชี้ชี้ขึ้นมา ท่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ฟังไม่ได้สนใจในสิ่งที่กำลังฟังอยู่ แต่ทำทีว่าสนใจเพื่อเป็นการรักษามารยาทในที่ประชุม แต่ท่าทางดังกล่าวนี้ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงได้ ผู้พูดจะรู้ทันทีว่าผู้ฟังไม่จริงใและกำลังประจบประแจง เอาใจด้วยการทำท่าเหมือนสนใจฟัง