วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การจับมือ การจับมือเพื่อการทักทายและอำลา




การจับมือเพื่อการทักทายและอำลา เป็นวัฒนธรรมของต่างชาติซึ่งปัจจุบันนี้กลายเป็นวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมและเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก จนได้รับการยกย่องเป็นสากล ไม่เว้นแต่ในประเทศที่มีอารยธรรม วัฒนธรรมเป็นของตัวเอง เนื่องจากมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจ การเจจาตกลง การค้าขายกับต่างชาติยังคงดำเนินต่อไปได้และเป็นไปตามเป้าหมาย เราจำเป็นที่จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจ ในวัฒนธรรมการจับมือของต่างชาติไว้บ้าง เพื่อให้เข้าใจในความหมายของท่าทาง ซึ่งจะสื่อไปถึงความรู้สึกของเขาด้วย และเพื่อเป็นการแสดงถึงความเป็นสากล ไม่ใช่พวกล้าหลังให้ชาวต่างชาติได้รับรู้

วัฒนธรรมการจับมือของชาวต่างชาตินั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณสมัยที่มนุษย์ยังอาศัยอยู่ในถ้ำ เมื่อพวกเขาพบปะกัน จะยกแขนขึ้นเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นมือ ซึ่งแสดงว่าพวกเขาไม่มีอาวุธซ่อนเอาไว้ หรือการทาบมือลงบนหัวใจและท่าอื่น ๆ และสุดท้าย ได้วิวัฒนาการกลายเป็นการจับมือในยุคปัจจุบัน

ในกรณีที่เป็นการพบเจอหน้ากันครั้งแรก การจับมือทักทายตามธรรมเนียมจะสื่อความหมายความรู้สึกแรกพบออกมาได้ทันที บางคนเมื่อพบหน้ากัน จะรู้สึกได้ทันทีว่าจะต้องควบคุมคนคนนั้นให้ได้ และการแสดงความรู้สึกนั้นออกมาด้วยการจับมือแบบข่มขู่ โดยจะจับมือและคว่ำมือของตนเองลง ซึ่งตรงข้ามกับการจับมือแบบยอมจำนนที่จะหงายฝ่ามือขึ้น หรืออาจจะมีความจำเป็นอื่น ๆ ที่ต้องทำเช่นนั้น เช่น ข้อมืออักเสบ มีปัญหาเกี่ยวกับไขข้อ จึงทำให้ต้องจับในท่าดังกล่าว แต่ถ้ารู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามพยายามควบคุมด้วยการจับมือและคว่ำมือตนเองลง เพื่อให้เขารู้ว่าขณะนี้เขากำลังเป็นต่อเราอยู่ ซึ่งการที่จะพลิกมือให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งปกติจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ให้แก้ใขด้วยการก้าวท้าวซ้ายรุกเข้าใกล้เขา แล้ววางเท้าซ้ายขวางเท้าขวาเขาไว้ วิธีนี้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถขัดขืน และพลิกมือให้กลับมาตั้งตรงในตำแหน่งการจับมือตามปกติได้และกลับมาเป็นฝ่ายควบคุมบ้าง

บางครั้งการจับมือเพื่อเป็นการทักทาย ควรพิจารณาก่อนว่าควรเป็นฝ่ายจับก่อนหรือไม่ โดยเฉพาะที่ได้พบกันครั้งแรก เพราะมันอาจส่งผลลบแทนได้ ผู้ที่ถูกจับมือโดยไม่รู้ตัวก่อนล่วงหน้าอาจจะทำให้เขาไม่ยินดีกับการทักทาย หรือแสดงออกหรือท่าทีที่ไม่ประทับใจออกมาได้




นักการเมืองมักจะเป็นกลุ่มคนที่ใช้ท่าจับมือแบบถุงมือมากที่สุด โดยจะยื่นมือออกไปจับก่อนเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความประทับใจว่าเขาเป็นคนน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ มีความซื่อสัตย์ แแต่ไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก เพราะท่าจับมือแบบถุงมือเป็นท่าแสดงความสนิทสนมหรือเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันอย่างดี นอกจากนั้นท่านี้ไม่ควรนำมาใช้อีกท่าหนึ่งคือ การจับือแบบเย็นชา การจับมือด้วยความนุ่มนวลและนิ่ง ไม่มีการเขย่า ลักษณะการจับแบบดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้จับเป็นคนอ่อนแอตรงกันข้ามกับคนที่จับในลักษณะที่แสดงถึงความก้าวร้าว เช่น จับแล้วบีบมือด้วยความรุนแรง

ผู้ที่มีความก้าวร้าวมักจะมีท่าการจับมือที่สามารถสื่อให้เห็นถึงความก้าวร้าวได้ง่าย เช่น ท่ายืนแขนเหยียดตรงออกมาจับมือ เขาจะเหยีดแขนออกมาเพื่อรักษาระยะห่างเอาไว้ ไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามล่วงล้ำอาณาเขตของตนและจะมีการโน้มตัวมาข้างหน้า ส่วนคนที่ชอบจับมือแบบจับแต่นิ้ว จะแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนขาดความมั่นใจมาก จะเห็นได้จากการจับมือว่ามีการรักษาระยะห่างของตัวเองเอาไว้