วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การนั่ง ในกรณีที่การสนทนาเกิดขึ้นบนเก้าอี้



ในกรณีที่การสนทนาเกิดขึ้นบนเก้าอี้ ถ้าทั้งสองฝ่ายยอมรับหรือสนใจในตัวอีกฝ่ายหนึ่งจริง ๆ จะนั่งไขว่ห้างไปทางที่คู่สนทนานั่งอยู่ และยิ่งทั้งสองคนเริ่มที่จะมีความคิดเห็นที่สอดคล้องหรือเหมือนกัน พวกเขาก็จะเริ่มเลียนแบบท่าทาง การเคลื่อนไหวของกันและกัน ในกรณีที่ต้องการแทรกหรือทำลายรูปแบบปิดของการสนทนาให้หมดไป บุคคลที่สามจะต้องเลื่อนเก้าอี้ไปยังตำแหน่งตรงหน้าของอีกสองคน เพื่อสร้างสามเหลี่ยมขึ้น

นอกจากการนั่งไขว่ห้างเพื่อสื่อถึงความคิดเห็นที่ตรงกันแล้ว การนั่งรูปสามเหลี่ยมแบบเปิดยังเป็นการแสดงท่าทางในลักษณะที่ไม่เป็นทางการเกินไป ดูสบาย ๆ ในการพบปะกัน และยังเป็นท่าทีที่เหมาะสมที่สุดในการตักเตือนหรือให้คำแนะนำผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาสามารถแสดงท่าทางเห็นด้วยกับผู้ใต้บังคับจากการนั่งในรูปแบบนี้ด้วยการเลียนแบบการเคลื่อนไหวและท่าทางของเขา การนั่งโดยให้ลำตัวหันไปหาผู้ใต้บังบัญชาโดยตรง เป็นการแสดงถึงความเอาจริงเอาจัง ต้องการคำตอบที่ตรงไปตรงมา การแสดงออกทางสีหน้าและร่างกายน้อยลง จะทำให้ผู้ใต้บังคับรู้สึกเครียด กดดัน และวิตกกังวลมากกว่าตอนที่เขาทำผิด หรือการหมุนเก้าอี้ให้หันตรงไปทางเขาขณะถามคำถาม ก็สามารถทำให้ลูกน้องเกิดความกดดันได้และสาระภาพความผิดออกมา แต่ถ้านั่งเก้าอี้และหมุนให้เก้าอี้หันออกจากลูกน้อง แล้วเปลี่ยนมาเป็นหันศีรษะเข้าหาเขาแทน จะทำให้เขาลดความกดดัีนลงไป ซึ่งท่าที่เหมาะสมกับการถามคำถามที่มีความละเอียดอ่อนหรืออ่อนไหวได้ง่าย เพราะจะทำให้ได้รับคำตอบที่เปิดเผยมากกว่าเดิม



การนั่งและการหันปลายเท้า การหันปลายเท้านอกจากจะเป็นแสดงทิศทางที่ต้องการไปแล้วยังหมายถึง บุคคลที่น่าสนใจด้วย หนุ่ม ๆ ที่ยืนรุมแจกขนมจีบสาวคนหนึ่ง ดูภายนอกก็เหมือนกับว่าหนุ่ม ๆ ทั้งหลายกำลังความคุมสถานะการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ เพราะพวกเขาพยายามพูดคุยกับหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม โดยที่ฝ่ายสาวเจ้า ไม่พูดอะไรเลยนอกจากยืนยิ้ม แต่ถ้าสังเกตที่ปลายเท้า จะพบว่าปลายเท้าของพวกหนุ่ม ๆ ทุกคนจะหันไปหาสาวคนนี้ ซึ่งแสดงว่าทุกคนกำลังสนใจในตัวเธอ และเธอเองก็สามารถรับรู้ได้ถึงความสนใจที่มีต่อตัวเธอ และจะยังคงยืนอยู่ในกลุ่มนั้นต่อไปตราบใดที่เธอยังคงเป็นที่น่าสนใจ และอาจจะหันปลายเท้าหรือเหลือบมองหนุ่มที่เธอสนใจอยู่เช่นเดียวกัน