วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การแสดงอาณาเขตและความเป็นเจ้าของ















การแสดงอาณาเขตและความเป็นเจ้าของ


จะพบว่าตัวเราเองมักแสดงอาณาเขตตัวเองให้ผู้อื่นรู้เห็นด้วย การยืนพิง สัมผัส สิ่งของหรือบุคคล เพื่อเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของออกมา อาการแสดงอาณาเขตหรือความเป็นเจ้าของมักจะ ยืนพิง วางเท้า ข้างหนึ่งบนสิ่งของ หรือใช้แขนโอบกอด เมื่อร่างกายของเขาได้สัมผัสกับสิ่งของมันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาไป และเพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่ามันเแ็นของเขาเพียงผู้เดียว คู่รักมักจะแสดงความเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน ด้วยการจูงมือ หรือโอบกอนในที่สาธารณะ หรือ เมื่อมีคนกำลังมองมองดูคู่รักของตนอยู่ นอกจากจะเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของ หรือการแสดงอาณาขตแล้ว การพิง นั่ง หรือใช้ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตยังแสดงถึงการข่มขู่ผู้อื่น ทำให้เจ้าของของชิ้นนั้นเกิดความรู้สึกเชิงลบได้ตั้งแต่แรกพบ















ลักษณะที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ ได้แก่ นั่งเก้าอี้แล้วยกขาขึ้นมาพาดด้วยท่าที่สงบนิ่ง ผ่อนคลาย นั่นหมายถึง เขากำลังประกาศความเป็นเจ้าของเก้าอี้ตัวนั้นอยู่ และแสดงว่าเขากำลังผ่อนคลาย


ในท่าเดียวกันแต่ต่างสถานการณ์ออกไปผลที่ตามมาจะต่างออกไป ถ้าเขานั่งนิ่ง มีท่าทีตั้งอกตั้งใจฟังในสิ่งที่คู่สนทนากำลังพูด จากนั้นเริ่มเอนตัวไปข้างหลัง พิงพนักเก้าอี้แทน และยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาด แสดงว่าเขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนเดิมแล้ว แต่มันหมายถึงความไม่สนใจ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคู่สนทนาเลย และอาจจะรู้สึกเสียเวลาอยู่นิด ๆ ที่ต้องมานั่งฟังอะไรก็ไม่รู้ ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะแกลงมองหน้าผู็พูดบ้าง เพื่อไม่ให้เขาดูว่าไม่สนใจฟังเลย


แต่ถ้าพบกับคนที่กำลังแสดงความเป็นเจ้าของโดยการยกขาขึ้นพาดโต๊ะ ต้องรีบทำให้เขาเปลี่ยนท่าให้ได้ อาจจะหลอกล่อให้ต้องโน้มตัวมาข้างหน้า เพื่อให้เขาเปลี่ยนท่านั่ง และบรรยากาศการสนทนาหรือเจรจาจะดูผ่อนคลายมากขึ้น


บางคนชอบยืนเท้าประตู ซึ่งการยืนในสักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าลึก ๆ เขาเป็นคนชอบข่มคนอื่น และมีผลต่อภาพลักษณ์ของเขาเองตั้งแต่แรกพบ ดังนั้นการพบปะกับใครเป็นครั้งแรก ควรยืนในท่าตรง แบมือออกเพื่อแสดงความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น เนื่องจากความรู้สึกชั่วแวบแรกที่ได้เห็นจะเป็นสิ่งที่ถูกประมวล เป็นความรู้สึกแรกพบได้ และความรู้สึกนี้จะติดแน่นอยู่ในใจของผู้พบเห็นไปตลอดและไม่มีโอกาสที่จะลบเลือนได้เลย